วันศุกร์ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2558

มิชลินสตาร์ มิชลินไกด์ มันอะไรกันหนอ



มิชลินไกด์ หรือ กิ๊ด ค์รูช มิชแลง เป็นหนังสือแนะนำเส้นทาง ตีพิมพ์โดยบริษัท มิชลินที่ขายยางรถยนต์นี่แหละค่ะ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับอาหารกันนี่
รู้ไว้ใช่ว่า ขอเสนอ เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยว่าด้วย ความเป็นมาของ ดาวมิชลินว่าดาวยางรถยนต์เหตุใดมาตกลงที่ร้านอาหารได้

ช่วงระหว่างปี คศ 1936-1939 ทางรัฐบาลฝรั่งเศสได้ออกกฏหมายแรงงานฉบับใหม่ ประกาศให้บริษัทห้างร้านต้องอนุญาติให้ลูกจ้างลาพักร้อนได้โดยได้รับค่าจ้างตามปรกติ ปีละสองสัปดาห์ จากเดิมที่หากจะลาหยุดก็จะไม่ได้รับค่าจ้างในวันที่หยุด การออกกฏหมายฉบับนี้ ได้พลิกโฉมหน้าของการท่องเที่ยวในประเทศฝรั่งเศส ประจวบเหมาะกับอุตสาหกรรมยานยนตร์ได้พัฒนาถึงจุดที่ทำให้ราคาของรถยนต์ลดลงมาอยู่ในระดับที่เข้าถึงได้ ความนิยมการเดินทางโดยรถยนต์เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว นี่เป็นยุคทองของหนังสือเล่มเล็กๆที่ออกรายปี เล่มหนึ่ง ซึ่งก็คือ มิชลินไกด์นี่เอง
สองพี่น้องตระกูลมิชลินได้จัดพิมพ์มิชลินไกด์ขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อปี คศ.1900  ซึ่งนับเป็นเล่มแรกของยุโรปที่ตีพิมพ์เนื้อหาเน้นไปทางการแนะนำเส้นทาง รวมถึงบอกพิกัดสถานีบริการ เปลี่ยนยางรถ และปั๊มน้ำมัน เนื่องจากในขณะนั้นทั้งประเทศฝรั่งเศสมีรถยนต์อยู่ไม่ถึง 3000 คัน สถานีบริการต่างๆจึงมิได้มีเรียงรายอยู่ตามท้องถนน อย่างในปัจจุบัน  ทั้งนี้จุดประสงค์หลักก็เพื่ออำนวยความสะดวก และ ส่งเสริมการเดินทางโดยรถยนต์ เพราะเมื่อการใช้รถยนต์เพิ่มขึ้น ยอดขายยางรถยนต์ก็ต้องเพิ่มตาม
หนังสือแจกฟรีเล่มเล็กๆเล่มนี้ทำให้การเดินทางของหลายๆคนราบรื่นขึ้นโดยเฉพาะเมื่อเดินทางไปต่างถิ่นที่ไม่เคยไป เมื่อเห็นว่าประสพความสำเร็จดี จึงได้จัดให้พิมพ์ในประเทศอื่นๆในยุโรปในปีถัดๆไป


ในช่วงสงครามโลกครั้งที่1 การตีพิมพ์ต้องหยุดลงเมื่อสงครามหยุดก็พิมพ์ต่อเพื่อแจกจ่ายจนกระทั่งปี 1920 นาย อองเดร มิชลิน ขณะไปเยี่ยมชมตัวแทนจำหน่ายแห่งหนึ่ง เขาได้สังเกตุเห็นว่าหนังสีอที่เขาได้ตั้งใจพิมพ์ออกมานั้นหลายเล่มถูกเอาไปหนุนขาโต็ะเสีย ตามหลักการที่ว่า บุคคลพึงยกย่องเพียงสิ่งที่ตนต้องแลกมาด้วยทรัพย์ ( man only truly respects what he pays for.)   เขาและน้องชายจึงได้ตัดสินใจ ว่าต้องตั้งราคาให้ไกด์บุคของพวกเขา และทำการจำหน่ายแทนการให้เปล่า ในการนี้ได้มีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง เช่นการเพิ่มส่วน แนะนำที่พัก โรงแรม และ ร้านอาหาร เมื่อพบว่าส่วนร้านอาหารเป็นที่นิยมอย่างสูง สองพี่น้องได้จ้างทีมผู้ประเมิน ขึ้นโดยเฉพาะ เพื่อให้เดินทางไปชิมอาหารตามที่ต่างๆ โดยมิได้เปิดเผยตัวตน
ในปี 1926 ได้เริ่มติดดาวให้ภัตตาคารระดับสูง (fine dinning restaurants หรือ restaurants gastronomiques)โดยมีเพียงดาวเดียว ต่อมาในปี 1931 ได้เริ่มจัดลำดับ หนึ่ง สอง และ สามดวง จนที่สุดปี 1936 จึงได้มีการประกาศ กติกา เงื่อนไข การติดดาวในระดับต่างๆ



ระหว่างสงครามโลกครั้งที่2 เล่ากันว่า ในปี 1940 กองทัพเยอรมัน ใช้มิชลินไกด์ นำทางเพื่อบุกเมืองต่างๆของฝรั่งเศส เนื่องจาก หนังสือมีข้อมูลด้านแผนที่และพิกัดต่างๆ ที่มีความแม่นยำสูงมาก จนกระทั่งปี 1944 หลังกองทัพสัมพันธมิตร บุก นอร์มังดี ได้มีการตกลงลับเพื่อจัดพิมพ์ ไกด์บุคฉบับปี 1939 เป็นพิเศษขึ้นที่ กรุงวอชิงดัน ดีซี เพื่อใช้ในการสงครามโดยเฉพาะ เมื่อเสร็จสิ้นสงคราม ทางบริษัทก็ได้ดำเนินการจัดพิมพ์อีก ฉบับแรกออกเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 1945 หลังวันสิ้นสุดสงครามในยุโรป หรือ VE Day เพียงหนึ่งสัปดาห์ สืบเนื่องจากสงคราม และผลกระทบ ทำให้มีการจำกัด การติดดาวอยู่ที่สูงสุด สองดวงอยู่หลายปี

ในปี 1955 ทางไกด์ได้เพิ่ม สัญลักษณ์เข้าไปอีกอย่าง มีชื่อเรียก ว่า บิบ กูค์มอง เพื่อเป็นการแนะนำร้านอาหารรสเลิศแต่ราคาย่อมเยา ทั้งนี้ Bib หรือ Bibendum เป็นชื่อเล่นที่ทางบริษัทใช้เรียก มิชลินแมน ตัวนำโชคที่อยู่คู่กับบริษัทมานับศตวรรษ

ปี 2005 มิชลินไกด์ ฉบับสหรัฐ ได้ถูกตีพิมพ์ขึ้นเป็นครั้งแรกโดยเริ่มจาก นิวยอร์คไปก่อน ปี 2007เปิดตัวที่ญี่ปุ่น ปี2008 เป็นปีของฮ่องกง และ มาเก๊า
สำหรับในเมืองไทยเรา ณ เวลานี้ (2015) ทางผู้จัดพิมพ์ยังไม่ได้มีการติดดาวให้ภัตตาคารใดนะคะ แต่มีพ่อครัวที่มีดาวทั้งหลายพากันมาเปิดสาขา บ้างก็เป็น พ่อครัวที่ปรึกษา ในหลายๆแห่ง ซึ่งรสชาติอาหาร และ คุณภาพบริการ ไม่แพ้ ภัตตาคารติดดาวในยุโรปเลยค่ะ เพียงแต่รอเวลาให้ดาวจาก กาแลกซี่ที่ชื่อ มิชเชอลิน ตกลงมาประดับที่ร้านอาหารของตนเท่านั้นค่ะ


ขอบคุณภาพถ่ายจาก
stlmag.com
telegraph.com
wikipedia
restaurantfris.nl


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น