วันเสาร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2558

ทำไมเจ้าสาวจึงใส่ชุดขาว





หลายคนเชื่อว่าสีขาวของชุดเจ้าสาวนั้นสื่อถึงความบริสุทธิ์ แต่จริงๆแล้วเดิมที สีที่สือถึงความบริสุทธิ์นั้น คือสีฟ้าต่างหาก  สมัยก่อนเจ้าสาวจะใส่สีอะไรก็ได้ตามชอบแม้แต่สีดำ ซึ่งเป็นสีที่ฮิตมากในประเทศแถบสแกนดิเนเวีย เจ้าสาวในชุดขาวที่ได้มีการบันทึกไว้เป็นรายแรกในยุโรป คือเจ้าหญิง ฟิลิปปา แห่ง อังกฤษ ในปี คศ.1406  ถัดมา ในปี คศ 1559ราชินี แมรี่ แห่ง สก๊อต ก็ทรงฉลองพระองค์สีขาวครั้งที่
อภิเษกสมรสกับ เจ้าชาย ฟรานซิส แห่งฝรั่งเศส เพราะเป็นสีทรงโปรด แม้ว่าสีขาวจะเป็นสีไว้ทุกข์สำหรับราชินีฝรั่งเศสก็ตาม


อย่างไรก็ดีชุดสีขาวนั้นก็ยังไม่เป็นที่นิยมโดดเด่นจากสีอื่นๆจนกระทั่ง ปี คศ1840 พระนางเจ้าวิคตอเรีย แห่งอังกฤษ อภิเษก กับเจ้าชายอัลเบิร์ต แห่ง ซัดโคเบิร์ก ขณะนั้นทรงครองราชแล้ว เป็นราชินีผู้ครองบังลังก์ (queen regnant) ชุดแต่งงานของท่านจึงต้องแสดงออกถึง ความรักชาติ หน้าที่และความรับผิดชอบที่ทรงแบกรับ ช่วงเวลานั้นเองการปฏิวัติอุตสาหกรรมสิ่งทอส่งผลกระทบต่อ การผลิตลูกไม้ที่ถักด้วยมือเพราะลูกไม้ที่ผลิตโดยเครื่องจักรมีราคาถูกกว่ามาก ทำให้ช่างถักลูกไม้ตกงานเป็นจำนวนมากถึงขนาดเป็นวาระแห่งชาติ พระนางเจ้า วิคตอเรียจึงทรงเจาะจงให้ใช้ลูกไม้ทำมือจาก ฮอนิตัน (Honiton)ซึ่งเป็นลูกไม้ที่มีความละเอียด อ่อนช้อย ถือเป็นสุดยอดของลูกไม้ในอังกฤษ เพื่อเป็นการส่งเสริม อุตสาหกรรมทำมือซึ่งแสดงออกถึงเอกลักษณ์ของอังกฤษ และสีขาวคือสีที่เหมาะสมที่สุดในการขับให้เห็นถึงความงามในศิลปะการถักลูกไม้ ในกรณีนี้สีขาวจึงสื่อถึง ความเหมาะสม และความรักชาติ  มากกว่าจะเป็นความบริสุทธิ์ เพราะเจ้าสาวไม่ใช่แค่ สาวบริสุทธิ์ที่ กำลังก้าวเข้าสู่วิถีชิวิตของการผลิตลูก และ การดูแลบ้าน หากเจ้าสาวคนนี้ เป็น ผู้ปกครองจักรวรรษ อันเกรียงไกร และ กำลังขยายอิทธิพลไปทั่วโลก อีกทั้งในอังกฤษเอง ตั้งแต่รัชกาลก่อน ความนิยมต่อราชวงศ์ถดถอยลง เมื่อพระองค์ขึ้นครองราชนั้น ทรงเป็นเพียงเจ้าหญิงวัยรุ่น ทรงเป็นความหวังว่าจะเป็นผู้กอบกู้สถานการณ์ แต่ขณะเดียวกันก็เป็นที่กังขาว่าจะไปได้ซักกี่น้ำ ดังนั้นทุกสิ่งที่ทรงทำจึงต้องผ่านการคิดคำนวณแล้ว อย่างดี ทุกสายตาต่างจับจ้องมาที่พระองค์ ฉลองพระองค์ชุดนี้ จึงมิใช่แค่ชุดแต่งงาน แต่เป็นเหมือน คำประกาศ คำเป็นร้อยคำที่ไม่ต้องพูดแม้คำเดียว ภาพถ่ายฉลองพระองค์นี้ได้ถูกตีพิมพ์ออกไปอย่างแพร่หลาย


จากนั้นเจ้าสาวทั้งหลายก็พากันพูดเป็นเสียงเดียวว่าชุดแต่งงานของพวกเธอต้องเป็น สีขาวและข้อสำคัญลูกไม้ โดยเฉพาะลูกไม้ ฮอนิตันก็เป็นที่ต้องการอย่างสูงเช่นกัน  อย่างไรก็ดี แม้จะเป็นสียอดปรารถนาของเจ้าสาวทั้งหลาย ชุดขาว ก็ยังจำกัดอยู่ในวงสังคมชั้นสูง และผู้มีอันจะกิน เนื่องจากการฟอกผ้าขาวยังทำได้ยาก และมีราคาแพง จวบจนกระทั่งช่วงรอยต่อศตวรรษที่19 กับ 20 ได้มีการพัฒนาด้านเคมีภัณฑ์ ทำให้ค่าใช้จ่ายในการฟอกผ้าขาวลดลงมาอยู่ในระดับที่ เหล่าชนชั้นกลาง ที่กำลังเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็วในยุคนั้นสามารถเข้าถึงได้ จากนั้นภาพเจ้าสาวในชุดขาวก็กลายเป็นสิ่งที่เห็นกันจนชินตา จนพัฒนาเป็นธรรมเนียมปฏิบัติ และได้แพร่ขยายไปภูมิภาคต่างในโลก จนถึงทุกวันนี้นั่นเอง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น