วันอาทิตย์ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2559
Easter ทำไมต้อง ไข่ กับ กระต่าย
เทศการ Easter เป็นเทศการทางศาสนาคริสต์ เพื่อระรึกถึงการฟื้นคืนชีพของพระ เยซูคริสต์ สามวันหลังการถูกตรึงกางเขนจนเสียชีวิต(the Resurrection) ก่อนจะเสด็จขึ้นสวรรค์ไป ซึ่งนับเป็นเหตุการณ์ที่สำคัญไม่น้อยไปกว่าเทศการคริสต์มาสเลยทีเดียว เมื่อถึงช่วงเทศการ ร้านค้าต่างๆจะนำเอา ช๊อคโกเลตที่ทำเป็นรูปไข่ และ รูปกระต่าย ห่อกระดาษสีสันสดใสมาวางจำหน่าย จริงๆกระต่าย และ ไข่ ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับศาสนาคริสต์เลย แต่ที่นำมาใช้ในการฉลองนี้มีที่มาตั้งแต่ก่อนศาสนาคริสต์จะเข้ามาถึงดินแดนยุโรปเหนือเสียอีก ขนเผ่า Saxon ที่อาศัยอยู่ในประเทศอังกฤษเป็นพวกบูชา เทพเจ้าแห่งธรรมชาติ หรือที่เรียกกันว่า 'เพเก็น' pagan ชนเผ่านี้มีเทศการฉลองฤดูใบไม้ผลิของตนเองที่เรียกว่า Eastre หรือ Eostre เพื่อบูชา เทพีแห่งฤดูใบไม้ผลิ ผู้ให้ความอุดมสมบูรณ์แก่ผืนแผ่นดินโดยมีความเกี่ยวเนื่องกับทิศตะวันออก (East) สัญลักษณ์ของเทพีนี้คือกระต่าย เนื่องจากกระต่ายจะตกลูกจำนวนมากในช่วงต้นฤดู
ว่ากันว่า กระต่ายอีสเตอร์จะเอาตะกร้าใส่ไข่สีสันสดใส มาให้เด็กๆในคืนก่อนวันอีสเตอร์ แบบเดียวกันที่ (ซานตาคลอส เอาของขวัญมาส่งก่อนวันคริสต์มาสนั่นเอง) โดยจะเอาไปแอบไว้ในบ้านหรือในสวนหลังบ้านของเด็กๆ เมื่อถึงเวลาเช้าเด็กๆตื่นขึ้นมาก็จะต้องตามหาไข่ให้เจอ จึงเป็นที่มาของกิจกรรม Easter eggs hunt นั่นเอง
เนื่องจากฤดูใบไม้ผลินับเป็นฤดูแห่งชีวิด หลังจากช่วงเวลาแห่งความเหน็บหนาวของฤดูหนาวที่พรากชีวิตชีวาไปจากผืนดิน เมื่อพระอาทิตย์ข้ามผ่านเส้นศูนย์สูตร ทำให้ช่วงเวลากลางวันยาวนานเท่ากับกลางคืน (Equinox) ทำให้ผืนดินมีความอบอุ่นเพียงพอ ดอกไม้จะผลิบาน นับเป็นการเริ่มต้นชีวิตหลังจากความตายของฤดูหนาว นับว่าเข้ากับ คอนเซ็ปท์ของการฟื้นคืนชีพของพระเยซูมากๆ
แม้ทางศาสนจักรจะพยายามให้ศาสนิกชนสนใจเรื่องพระคริสต์มากกว่าการไปสนใจกระต่ายและไข่ที่ทำจากชอกโกเล็ต เนื่องจากเป็นประเพณีของของ pagan ชึ่งถือเป็นพวกนอกรีต แต่กระต่าย และไข่อีสเตอร์ก็ถือเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ทางการค้าที่ประสบความสำเร็จที่สุดในโลก
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)